แอร์บัสประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า บริษัทจะหยุดการผลิตเครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ A380 โดยเครื่องบินลำสุดท้ายจะส่งมอบให้กับลูกค้าสายการบินภายในปี 2021 หลังจากแอร์บัสยืนยันแล้วว่า เอมิเรตส์ (Emirates) สายการบินเพียงสายการบินเดียวที่ยังคงมียอดสั่งจอง A380 ตัดสินใจเปลี่ยนคำสั่งซื้อไปเป็น A350 และ A330neo แทน
อย่างไรก็ตามแอร์บัสจะยังคงให้การสนับสนุนด้านเทคนิคต่างๆ ให้กับลูกค้าปัจจุบันที่ทำการบินด้วยเครื่องบินรุ่นนี้อยู่ แต่สายการบินจะไม่สามารถสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ถึงแม้ A380 จะเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมจากผู้โดยสาร เนื่องจากมีห้องโดยสารกว้าง และสามารถรองรับผู้โดยสารได้เที่ยวละถึงกว่า 500 คน แต่ในสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินปัจจุบันที่สายการบินไม่สามารถขายตั๋วโดยสารให้ได้เท่ากับจำนวนที่นั่งบนเครื่อง บวกกับภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการของ A380 สูงกว่าเครื่องบินแบบ 2 เครื่องยนต์อย่างโบอิ้ง 777, 787 และแอร์บัส A350 ซึ่งอาจจะบรรทุกผู้โดยสารได้เพียง 300-350 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน แต่ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการน้อยกว่า A380 มาก
นอกจากนี้เอมิเรตส์ สายการบินซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ A380 ออกมายอมรับว่า การแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้ดูไบเป็นฮับการบินกำลังถูกท้าทายจากสายการบินคู่แข่ง โดยเฉพาะสายการบินในยุโรปและเอเชีย ที่เริ่มนำเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ อย่าง 787 และ A350 มาให้บริการเส้นทางบินตรงจากเอเชีย และออสเตรเลียไปยุโรป และทวีปอเมริกา (Ultra Long Haul) ตัดความจำเป็นในการมาเปลี่ยนเครื่องที่ฮับในตะวันออกกลาง
ดังนั้นเอมิเรตส์จึงต้องปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ ด้วยการลดขนาดของเครื่อง แต่เปลี่ยนเป็นเพิ่มเส้นทางการบินที่ครอบคลุมขึ้น รวมทั้งเพิ่มจำนวนไฟลท์เพื่อให้ผู้โดยสารมีตัวเลือกการเดินทางมากขึ้น แทนที่จะใช้เครื่องลำใหญ่เพื่อรับส่งผู้โดยสารแบบฮับต่อฮับ ที่ในอนาคตอาจจะถูกแทนที่ด้วยเที่ยวบินตรง Ultra Long Haul แทน
ที่มา: Reuters, Bloomberg
Comments