รีวิวนี้ผมจะเปลี่ยนบรรยากาศ พาทุกท่านนั่งชั้นประหยัดของคาเธ่ย์แปซิฟิก จากไทเป กลับกรุงเทพฯ พร้อมกับแวะเลาจน์ของคาเธ่ย์ที่สนามบินเถาหยวน (ไทเป) และ The Deck เลาจน์น้องใหม่ของคาเธ่ย์ที่สนามบินฮ่องกงกัน
คาเธ่ย์แปซิฟิก และคาเธ่ย์ดรากอน ใช้เคาท์เตอร์เช็คอิน 3 และ 4 ที่อาคาร T1 สนามบินเถาหยวน และเป็นสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินจากอาคาร T1 มากเป็นอันดับ 2 รองจากไชน่าแอร์ไลน์ มีเที่ยวบินตรงไปฮ่องกง เกาหลี และญี่ปุ่น
สำหรับเคาท์เตอร์เช็คอินพิเศษ ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ชั้นธุรกิจ และสมาชิก Marco Polo เช็คอินที่แถว 4
สังเกตป้ายสีน้ำเงิน Business, Marco Polo จะอยู่ตรงแถวที่ 4 ไม่ใช่แถวที่ 3 ตามที่ป้ายในสนามบินบอก
เมื่อโหลดกระเป๋าเสร็จ เราต้องมาตรงท้ายแถว เพื่อสังเกตตรงจอภาพว่ากระเป๋าเราผ่านการสแกนเรียบร้อยแล้ว คล้ายๆ กับที่สนามบินดอนเมือง ตรงนั้นจะมีป้ายสีขาวแบบนี้เขียนบอกว่ามีสิ่งของอะไรบ้างที่ต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เช่นเงินสด ทอง ฯลฯ โดยเน้น 3 ภาษานี้เป็นพิเศษ คือจีน เวียดนาม และไทย
จากนั้นก็เดินขึ้นไปตามลูกศร Boarding เพื่อไปยังเกท ขาออกจะสะดวกรวดเร็วเพราะใช้ช่องอัตโนมัติได้
ผ่าน ต.ม. เสร็จ เดินไปทางซ้ายมือ จะเห็นทางไปเลาจน์ ที่อาคาร T1 มี 3 เลาจน์ให้บริการ ได้แก่เลาจน์ของไชน่าแอร์ไลน์ เลาจน์คาเธ่ย์ และ Plaza Premium Lounge สำหรับผู้ถือบัตร Priority Pass (การบินไทยใช้เลาจน์นี้เช่นกัน)
จุดแรกเมื่อเราเข้ามาในเลาจน์ของคาเธ่ย์ ก็คือมุมอาหารร้อน Noodle Bar ที่นี่มีพื้นที่ให้นั่งเยอะมาก เน้นบริการอาหารจีนเช่นบะหมี่เกี๊ยวและติ่มซำ พร้อมกับอาหารร้อนบุฟเฟ่ต์ต่างๆ
ผมเลือกบะหมี่เกี๊ยว ซาลาเปาใส้ครีม ฮะเก๋า และเกี๊ยวซ่าใส้ผัก
ถัดมาจะเป็นบริเวณสำหรับนั่งพักผ่อน และนั่งทำงาน
บรรยากาศร่มรื่น ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งในบ้าน ตกแต่งสไตล์เอเชีย ผสมผสานกับแนวคอนเทม
ท้ายสุดเป็นบริเวณบาร์เครื่องดื่ม มีบาร์เทนเดอร์ให้บริการค็อกเทลหลายอย่าง และบาริสต้าให้บริการกาแฟสด
เกทของเราวันนี้ไม่ไกลจากเลาจน์มาก
ถ้าใครที่เคยไปใช้บริการอาคาร T1 ของเถาหยวนจะรู้สึกได้ว่า พอลงมาตรงบริเวณเกท จะรู้สึกถึงความเก่าของตัวอาคารมาก เนื่องจากบริเวณเกทไม่ได้รับการรีโนเวตใหม่เหมือนกับบริเวณโถงเช็คอิน และส่วนอื่นๆ ของอาคาร ผมว่าโซนนี้ควรได้รับการรีโนเวตใหม่เช่นกัน เพราะดูโทรมมากแล้ว
ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ชั้นธุรกิจ และบัตร Marco Polo เข้าแถวตรงนี้ วันนี้สังเกตได้ว่าแถวตรงนี้ยาวมาก เรียกว่าอีกนิดก็ยาวเท่ากับแถวชั้นประหยัดแล้ว แสดงว่าผู้โดยสารที่บินระหว่างฮ่องกง กับไทเป เป็นผู้โดยสาร Marco Polo เยอะมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสุดๆ ของกลุ่มนักธุรกิจ
เข้ามาในเครื่องแล้ว วันนี้เรานั่งแอร์บัส A330-300 ที่นั่งแบบใหม่ เบาะนุ่มสบาย จัดวางแบบ 2-4-2 เห็นผมถ่ายที่นั่งว่างๆ แบบนี้ได้ เพราะผมอาศัยว่าเป็นสมาชิก Marco Polo ขึ้นเครื่องมาก่อน แต่จริงๆ ไฟลท์นี้เต็มครับ
วันนี้ผมเลือกที่นั่งตรงทางออกฉุกเฉิน
พื้นที่ก็จะกว้างเป็นพิเศษ
ไฟลท์สั้นๆ มีบริการแค่อาหารร้อนแบบรองท้อง และน้ำเปล่า
เมนูวันนี้เป็นไก่ผัดซอส รสชาติโอเค
ดึงจอส่วนตัว ออกมาดูว่าไฟลท์ต่อไปกรุงเทพฯ เกทไหน สรุปยังไม่มีข้อมูลเกท คงต้องไปดูตอนถึงสนามบินฮ่องกง
ไฟลท์จากไทเป มาฮ่องกง ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงนิดๆ เหมือนบินจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ต ตอนนี้เรามีเวลาเหลืออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนต่อไฟลท์ไปกรุงเทพฯ ดังนั้นเราจะไปแวะเลาจน์ The Deck ซึ่งอยู่บริเวณโซนเกท 15-19 กัน
The Deck จะแตกต่างจากเลาจน์อื่นๆ ของคาเธ่ย์ตรงที่ต้องขึ้นบันไดเลื่อนมา เพราะว่าเลาจน์ตั้งอยู่บริเวณชั้นลอยของอาคาร (เลาจน์อื่นๆ ต้องเดินลงบันได)
ทางเข้าคล้ายๆ กับเลาจน์อื่นๆ ของคาเธ่ย์ เน้นตกแต่งเป็นลายไม้ สบายตา
มีการจัดโซนที่นั่งด้านใน สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และด้านนอกสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการชมวิวของอาคาร
โซนด้านนอกจะมีที่นั่งรับประทานอาหาร ให้บรรยากาศเหมือนร้านสตรีทฟู้ด เลาจน์ The Deck มีบริการอาหารร้อน Noodle Bar เช่นเดียวกับ The Pier สั่งบะหมี่และติ่มซำได้
ว่าแล้วก็สั่งบะหมี่เกี๊ยวมากินอีกสักชาม
เก้าอี้บริเวณโซนด้านนอกจะเป็นเก้าอี้แนวโปร่ง เข้ากับการตกแต่งของอาคารผู้โดยสารสนามบินฮ่องกง
ได้เวลาที่เหมาะสม เราก็เดินมาที่เกทของเราวันนี้ และมุมนี้คือมุมบังคับ สำหรับการถ่ายเซลฟี่ที่สนามบินฮ่องกง
เที่ยวบินนี้เรานั่งเครื่องรุ่นโบอิ้ง 777-300 ลำเก่า และที่นั่งแบบเก่า จัดวางที่นั่งแบบ 3-3-3
ในเร็วๆ นี้เครื่องลำนี้จะเปลี่ยนที่นั่งใหม่แบบ 3-4-3 เบาะแคบลง แต่มาพร้อมกับจอทีวีใหม่ ใหญ่กว่าเดิม และมี Wifi ให้ใช้งาน
หูฟังของชั้นประหยัดคาเธ่ย์ก็เหมือนกับหูฟังของสายการบินอื่นๆ เสียงไม่ได้ชัดแจ๋วมาก ผมจะเอาหูฟังตัวเองมาใช้เวลาต้องนั่งชั้นประหยัด
ลักษณะการเสริฟอาหารของชั้นประหยัด อุปกรณ์เป็นพลาสติกทั้งหมด มีขนมปังอุ่นๆ หนึ่งชิ้น ผลไม้ และของหวาน (ไอศกรีมฮาเกนดาส) และบริการเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ
วันนี้ผมเลือกเมนูพะแนงไก่ รสชาติไม่เผ็ด แต่กลมกล่อมดี
ไอศกรีมฮาเกนดาส เลือกรสชาติไม่ได้เหมือนชั้นธุรกิจ ได้รสนี้มา อร่อยดีเหมือนกันครับ
คาเธ่ย์แปซิฟิกให้บริการเที่ยวบินภายในภูมิภาค โดยเฉพาะเส้นทางจีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น หลายไฟลท์มากๆ เลือกเวลาเดินทางได้สะดวก เพียงแค่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงนิดหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตัวเลือกไฟลท์ที่หลากหลาย ส่วนราคาตั๋วมักจะทำโปรโมชั่นถูกกว่าเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ต้องการตั๋วที่ราคาไม่แพง และมีไฟลท์ให้เลือกเยอะ
#รีวิวสายการบิน #รีวิว #ชั้นประหยัด #คาเธ่ย์ #CathayPacific #LiveWellTravelled #oneworld #economyclass #damike #damikeco #TheDeck #Lounge
Comentarios