"สิงคโปร์"เป็นจุดหมายที่ผมเดินทางไปบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางไปทำงาน สายการบินที่ให้บริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ แลสิงคโปร์มีหลายสาย แต่ผมมักจะเลือกบินระหว่างการบินไทย และคาเธ่ย์ เนื่องจากสองสายการบินนี้มีเที่ยวบินตรง และเป็นสายการบินกลุ่มพันธมิตร Star Alliance และ oneworld ที่มีโปรแกรมสะสมคะแนนที่ให้สิทธิประโยชน์มากกว่าสายการบินโลว์คอสต์
เที่ยวบินที่ผมเดินทางไปสิงคโปร์เที่ยวนี้ ผมเดินทางสดๆ ร้อนๆ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง
เที่ยวบินนี้เต็มเอียด ผมเลยได้สิทธิ์อัพเกรตเป็นชั้น Premium Economy สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร Marco Polo Club
วันอาทิตย์ โดยเฉพาะช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ คิวตรวจสัมภาระยาวมาจนเลยบันไดเลื่อน ใช้เวลารอตรงนี้อยู่ที่ครึ่งชั่วโมง แต่พอผ่านเข้าไปที่ ตม. ก็สบายแล้ว เพราะพาสปอร์ตไทยใช้ช่องอัตโนมัติ
เกทของเราวันนี้
แอร์บัส A350-900 ของคาเธ่ย์ ที่จะพาเราไปสิงคโปร์วันนี้ ชอบกระจกหน้าเครื่อง เท่ดี
สมาชิกบัตร Marco Polo Club ผู้โดยสารชั้นพรีเมียม และชั้นธุรกิจ สามารถเข้ามาที่โซน Priority ที่จัดไว้หน้าเกท ช่วยให้ตอนประกาศขึ้นเครื่องไม่มีผู้โดยสารคนอื่นมาแซงคิวตัดหน้า ผมว่าคาเธ่ย์จัดการเรื่องบอร์ดดิ้งได้ดีมากๆ สายการบินอื่นน่าจะดูไว้เป็นตัวอย่าง
ได้เวลาเราก็ไปขึ้นเครื่องกัน
ที่นั่งชั้นพรีเมียม วันนี้เก้าอี้เสียไป 3 ตัว
รูปทรงเก้าอี้ นั่งสบายมากๆ
บริเวณที่รองศีรษะจะมีไฟอ่านหนังสือแอลอีดี
ปรับออกมาได้แบบนี้
หน้าจอส่วนตัวความละเอียด Full HD ดูรายการทีวีสดๆ ผ่านดาวเทียมได้ มีช่องกีฬา, CNN, BBC World News, Euronews
ด้านหน้ามีช่องเก็บของ สำหรับใส่สมาร์ทโฟน และกระเป๋าสตางค์ได้
ที่เก๋อีกอย่าง ถัดจากช่องเก็บของ ก็คือช่องสำหรับไว้วางแท็บเล็ต สำหรับใครที่อยากเอาดีไวซ์ส่วนตัวมาใช้งานบนเครื่อง
เส้นทางการบินของเราวันนี้ เที่ยวบิน CX 619
รีโมตควบคุมระบบความบันเทิง รุ่นพานาโซนิค eX3
ด้านหลังเป็นคีย์บอร์ดแบบคิวเวอร์ตี้
ด้านข้างตรงที่วางแขนมาโต๊ะค็อกเทล สำหรับวางแก้วน้ำได้ ดึงออกมาแบบนี้ ถัดจากที่ใส่รีโมต คือปุ่มปรับที่นั่ง สามารถปรับเอน และปรับที่รองน่องได้
มาดูอาหารเที่ยงของเราในเที่ยวบินนี้กัน
จานหลัก ผมเลือกเป็นหมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน กับข้าวหอมมะลิ
ของหวานเป็นไอศกรีมฮาเกนดาส
เอกสารในกระเป๋าหน้าที่นั่งมีคู่มือความปลอดภัย คู่มือการใช้ Wifi และนิตยสาร Discovery
หูฟังแบบลดเสียงรบกวน ห่อมาในพลาสติกอย่างดี
พื้นที่ระหว่างขากว้างสบายมาก ระยะห่างระหว่างเก้าอี้ของชั้นพรีเมียมอยู่ที่ 40 นิ้ว สบายมากๆ สำหรับคนตัวสูง 185 อย่างผม ข้างหน้าเอนลงมาก็ไม่โดนขา ใครรู้ว่าตัวสูง ผมแนะนำให้อัพเป็นพรีเมียมดีที่สุด
เตรียมลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานชางฮี สิงคโปร์
ถึงอาคาร 4 สนามบินชางฮีแล้ว เราเดินไปที่ ตม. กัน
ลงไปตามป้ายเลย
เนื่องจากอาคาร 4 ยังไม่มีสายการบินมาให้บริการมาก ตม. แทบไม่มีคิว มาถึงจุดรับกระเป๋าเร็วมากๆ
เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋า และศุลกากร ถ้าใครเรียกรถด้วย Grab กับ Uber เดินมาทางซ้าย จะเจอป้าย Arrival Pick-up รถ Grab กับ Uber จะมารับตรงนี้
เป็นอีกเที่ยวบินที่บริการได้อย่างประทับใจ ถึงแม้จะเป็นเที่ยวบินสั้นๆ การได้อัพเกรตจากชั้นประหยัด มาชั้นพรีเมียม รู้สึกได้ถึงความสบายที่ต่างกันมาก ส่วนเรื่องอาหารชั้นประหยัดกับพรีเมียมไม่ได้ต่างอะไรมาก ผมแนะนำว่าเที่ยวบินสั้นๆ แบบนี้เราอาจจะไม่ต้องซื้อตั๋วชั้นพรีเมียม ให้ซื้อตั๋วชั้นประหยัดปกติ แล้วก็รออัพเกรตตอนเช็คอิน (อย่าลืมสมัครเป็นสมาชิกบัตรสะสมคะแนน Marco Polo Club เพื่อรับสิทธิ์)
Comments