รีวิวชั้นธุรกิจ Royal Silk การบินไทย กรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์

บริการผ้าร้อนก่อนเครื่องขึ้น

วันนี้ผมจะพาแฟนเพจเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 ของการบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk

การบินไทยมีเคาท์เตอร์เช็คอินเฉพาะ สำหรับชั้นธุรกิจ และชั้นเฟิร์สคลาสที่ประตูทางเข้า 1 สนามบินสุวรรณภูมิ

เคาท์เตอร์ A และ B สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และผู้โดยสารบัตรทอง Royal Orchid Plus

ได้บอร์ดดิ้งพาส เที่ยวบิน TG 415 และผ่านตรวจคนเข้าเมือง มายังด้านในของอาคาร

วันนี้ผมจะเลือกใช้เลาจน์ Royal Silk Lounge ของการบินไทยที่อาคารเทียบเครื่อง Concourse C

ป้ายทางเข้าบอกไว้ว่าเป็นเลาจน์สำหรับ Concourse C

ทางเข้าเลาจน์ของการบินไทยจะดูเหมือนๆ กันทุกฝั่ง สำหรับฝั่งในประเทศสามารถเลือกใช้บริการได้ที่ Concourse C, D และ E เลาจน์ Royal Silk Lounge ให้บริการผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และบัตรทอง Star Alliance ของสายการบินพันธมิตรทั้งหมด

บรรยากาศที่นั่งภายใน เน้นโทนสีน้ำตาล สลับม่วงเปลือกมังคุต ตามธีมของการบินไทย

มุมอาหารเช้า มีข้าวต้มปลา ไข่คน Scramble แฮม และเบคอนให้บริการ เหมือนๆ กับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าโรงแรม

มุมสลัดและผลไม้

มุมกาแฟและเครื่องดื่มร้อน

ผมเลือกข้าวต้มปลา ติ่มซำ และข้าวต้มมัด สำหรับมื้อเช้านนี้

วันนี้เราไปขึ้นเครื่องที่เกท C10 เดินยาวไปครับ

ผมนั่งที่ 11J ติดทางเดินแถวแรก

ที่นั่งรูปแบบประมาณนี้ เป็นที่นั่งแบบปรับเอนได้แต่ไม่ราบเป็นเตียงนอนแบบ 180 องศา แต่ก็นั่งสบาย เหมาะสำหรับเที่ยวบินระยะทางไม่ไกลมาก (ขอขอบคุณเครดิตภาพจาก www.traveller.com.au)

ลูกเรือบริการผ้าร้อนก่อนเครื่องขึ้น

หน้าปกเมนูอาหาร และเครื่องดื่ม ทำเป็นรูปเล่มสวยงาม

แถวหน้าสุดจะต้องดึงทีวีส่วนตัวมาจากช่องเก็บด้านข้างแบบนี้

เมื่อเครื่องไต่ระดับได้ที่ ลูกเรือก็มาปูโต๊ะเตรียมเสริฟอาหารเช้า (เนื่องจากเวลาที่เครื่องไต่ระดับก็เกือบ 10 โมงเช้าแล้ว ผมเลยมองว่าอาหารที่เสริฟดูออกจะเป็นแนว Brunch มากกว่า Breakfast)

Brunch นี้ผมเลือกเมนูอาหารไทย คือแกงเขียวหวานไก่ เสริฟคู่กับลาบไก่ ของหวานเป็นช็อกโกแลตและเยลลี่มะม่วง และผลไม้ ในเที่ยวบินไปมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศตะวันออกกลาง การบินไทยจะเสริฟอาหารฮาลาลทั้งหมด ดังนั้นจะไม่มีเมนูหมูให้เลือกนะครับ

เขียวหวานไก่การบินไทยอร่อยอย่าบอกใครเชียว

ชุดช้อนส้อมติดสติกเกอร์ 58 ปีการบินไทย

ปิดท้ายด้วยชาเขียวมัจฉะ

เที่ยวบินนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเครื่องลงพนักงานจะให้แผ่น Premier Lane ช่องพิเศษสำหรับตรวจคนเข้าเมือง ไม่ต้องไปต่อคิวช่องธรรมดา

เสร็จจากตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว แล้วเราก็มาถึงสายพานรับกระเป๋า รอกระเป๋ามา

เพื่อความมั่นใจ เช็คเที่ยวบินว่ากระเป๋ามาสายพานนี้ชัวร์ๆ รอแป๊บเดียวกระเป๋าก็มา

เป็นอีกเที่ยวบินที่ Smooth as Silk ตามสโลแกนของการบินไทย ตั้งแต่พนักงานภาคพื้น บริการในเลาจน์ และบริการบนเครื่อง อาหารอร่อย บริการเป็นกันเอง ต้องบินกับสายการบินประจำชาติอย่างการบินไทยนี่แหละครับ

แต่ผมว่าสิ่งที่การบินไทยควรปรับปรุงก็คือเลาจน์ที่ผมว่ามีสไตล์การตกแต่งที่ค่อนข้างล้าสมัย เมื่อเทียบกับสายการบินกลุ่ม Star Alliance ด้วยกันที่มีเลาจน์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ บรรยากาศภายในค่อนข้างอึมครึมไปนิด แต่อาหารที่บริการ โดยเฉพาะอาหารเช้าผมว่าดีกว่าเลาจน์ของสายการบินอื่น

ส่วนที่นั่งแบบนี้ สำหรับเที่ยวบินภายในภูมิภาค ระยะเวลา 2-4 ชั่วโมงถือว่ายังพอไหวครับ แต่ก็ยังมีไฟลท์ที่ระยะเวลานานกว่านี้ แต่ยังใช้เครื่องบินรุ่นนี้ ที่นั่งแบบนี้ เช่นไฟลท์ไปญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเหมาะกับที่นั่งแบบปรับนอนได้ 180 องศามากกว่า

เรื่องราคา เที่ยวบินนี้ผมจองผ่านโค้ดแชร์ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่าที่การบินไทยขายจริง การบินไทยยังคงทำราคาตั๋วชั้นธุรกิจแพงกว่าสายการบินอื่นๆ ในภูมิภาคอยู่มาก ทำให้ผมเลือกเดินทางกับสายการบินอื่น เช่น Singapore Airlines, Cathay Pacific, และ Malaysia Airlines ในชั้นธุรกิจ ซึ่งตั๋วราคาถูกกว่าการบินไทยพอสมควร ในบางเส้นทางอาจจะราคาถูกกว่ากันเป็นหมื่น

ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมการบินไทยถึงตั้งราคาสูงเช่นนี้ เมื่อเที่ยบกับผลิตภัณฑ์ที่ได้ ซึ่งแทบจะไม่ต่างกับสายการบินอื่น และสายการบินอื่นอาจจะผลิตภัณฑ์ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ

#การบินไทย #ชั้นธุรกิจ #RoyalSilkClass #BusinessClass #BusinessClassReview #รีวิวสายการบิน #รีวิว #บินกับไมค์ #ไมค์พาเที่ยว #เที่ยวกับไมค์ #Damike #Damikeco