top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนadmin

รีวิวชั้นธุรกิจ 'การบินไทย' กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ตั๋วแลกไมล์เก๋ๆ ราคาถูกกว่าบินชั้นประหยัด



วันนี้ผมจะพาแฟนเพจไปชมการบริการชั้นธุรกิจ Royal Silk ของการบินไทย เที่ยวบินภายในประเทศ ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - เชียงใหม่ ปกติเป็นที่รู้กันว่าชั้นธุรกิจราคาตั๋วจะค่อนข้างแพง ขั้นต่ำก็ประมาณเที่ยวละเกือบ 5 พัน ดังนั้นวิธีที่จะได้ตั๋วชั้นธุรกิจมาในราคาที่ถูกกว่า ก็คือการแลกไมล์ ซึ่งตั๋วชั้นธุรกิจ ไป-กลับ ภายในประเทศ ใช้ไมล์ ROP เพียง 20,000 ไมล์ บวกค่าธรรมเนียมกับภาษีเพียงแค่พันนิดๆ


สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ​ชั้นธุรกิจ แนะนำว่าให้เข้าประตู 1 จะสะดวกกว่า เพราะเคาท์เตอร์เช็คอินจะอยู่แถว B


เช็คอินเสร็จเรียบร้อย เข้ามายังพื้นที่เกท ไปที่เลาจน์การบินไทย Royal Silk Lounge ตั้งอยู่บริเวณ Concourse A ติดๆ กันเป็นเลาจน์บางกอกแอร์เวย์


เลาจน์การบินไทยจะถึงก่อน


แวะมากินอาหารเช้าก่อนขึ้นเครื่องสักนิด เช้านี้มีข้าวต้ม ยำกุนเชียง จับฉ่าย


อีก 40 นาทีก่อนเครื่องขึ้น เราก็เดินมาที่เกทของเราวันนี้ เกท A6 สุดทาง


เช็ครายละเอียดบอร์ดดิ้งพาสกันอีกสักนิดก่อนขึ้นเครื่อง


เข้ามาด้านในเครื่อง วันนี้ไฟลท์ TG104 ทำการบินด้วยเครื่องแบบโบอิ้ง 777-200 ชั้นธุรกิจจัดวางที่นั่งแบบ 2-2-2 ปกติแล้วเครื่องรุ่นนี้ ถ้าเป็นชั้นธุรกิจที่นั่งแบบเก่า สามารถจัดได้ 2-3-2 พอจัดแค่ 2-2-2 เลยทำให้พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้นมาก


พื้นที่ว่างระหว่างขา หรือ Seat Pitch อยู่ที่ประมาณ 60 นิ้ว กว้างสบาย


หน้าจอส่วนตัวยังเป็นแบบ 4:3 และภาพก็ไม่ค่อยคมชัด น่าจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนเร็วๆ นี้


รีโมตสำหรับควบคุมระบบความบันเทิง


รีโมตระบบความบันเทิงแบบเป็นโทรศัพท์ได้ถือว่าหาได้ยาก จะมีก็เฉพาะเครื่องรุ่นเก่าๆ เพราะเครื่องรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้โทรผ่าน Wifi หรือสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายผ่านโทรศัพท์มือถือส่วนตัวได้แล้ว เช่น B787 และ A350 แต่ราคาแพงมาก เผลอๆ แพงกว่าค่า Wifi ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องติดต่อใครขณะอยู่บนเครื่องที่มีสัญญาณโทรศัพท์ แนะนำให้ส่งไลน์ หรืออีเมลหากันดีกว่า


เครื่องดื่ม welcome drink ชามะขาม และผ้าร้อน


ดูวีดีโอสาธิตความปลอดภัย เนื่องจากวีดีโอถ่ายทำมาด้วยภาพอัตราส่วน 16:9 หรือแบบ HD สำหรับเครื่องรุ่นใหม่อย่าง B777-300ER, B787, A350, A380 พอมาเป็นเครื่องรุ่นเก่าภาพก็จะบีบลง จนเห็นขอบสีดำด้านบนและด้านล่างแบบนี้


พอเครื่องไต่ระดับได้ที่ ลูกเรือก็รีบมาปูโต๊ะเตรียมเสริฟอาหาร


เนื่องจากเวลาที่เครื่องออกประมาณแปดโมงครึ่ง เที่ยวบินนี้จึงเสริฟอาหารเช้า ได้แก่ข้าวต้มซีฟู้ด ของหวานคือเยลลี่ผลไม้รวม


พิเศษสุดๆ มีปาท่องโก๋ร้อนๆ ให้แทนขนมปัง ร้อนอร่อย จิ้มกับนมข้นหวานที่ให้มากระปุกเล็กๆ ผมขอไป 2 ตัว ผมเดาเอาว่าครัวการบินไทยอาจจะไม่ได้ทอดปาท่องโก๋เอง แต่อาจจะซื้อจากแม่ค้าตลาดมาอีกที (คล้ายๆ ที่บางกอกซื้อข้าวต้มมัดมาจากคุณยายที่สวนลุม) เพราะดูจากลักษณะของปาท่องโก๋มีความแฮนเมดมากๆ มื้อนี้ผมให้ 10/10 เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดอีกมื้อตั้งแต่นั่งการบินไทยมา


มาเชียงใหม่ได้ 4 วัน ถึงเวลากลับกรุงเทพ วันนี้ไฟลท์ TG103 ออกจากเชียงใหม่ประมาณ 10 โมงเช้า


ได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ไปเลาจน์กัน


เลาจน์ภายในประเทศของสนามบินเชียงใหม่ ตั้งอยู่ด้านในพื้นที่เกท บริเวณหน้าเกท 2 และ 3 ภายในไม่ค่อยใหญ่มาก แต่เก้าอี้นั่งค่อนข้างเพียงพอ ผมไม่เห็นป้ายบอกทางเข้าห้องน้ำ มีคนบอกว่าในนี้มี อยู่ตรงไหนใครรู้บ้าง


ส่วนตัวเลือกของอาหารมีไม่เยอะเท่ากับเลาจน์ที่สุวรรณภูมิ ส่วนใหญ่เน้นอาหารทานเล่น เบเกอรี แซนวิช ชา กาแฟ น้ำผลไม้ มีอาหารร้อนแค่ติ่มซำ กับข้าวต้ม หรือโจ๊ก


ใกล้เวลาเครื่องจะออก เราก็มาที่เกทของเรา วันนี้เกท 7 เที่ยวบินดีเลย์ไปประมาณ 20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากสำหรับเชียงใหม่


เครื่องแอร์บัส A330-300 มารอรับเรากลับกรุงเทพฯ กันแล้ว


ที่นั่งชั้นธุรกิจของ A330-300 การบินไทยจัดแบบ 2-2-2 ลำนี้มี Wifi ให้บริการด้วย


ที่ว่างระหว่างขาประมาณ 60 นิ้ว กว้างสบายเช่นเคย


อีกมุมของที่นั่ง


บริการผ้าร้อน


เครื่องดื่ม welcome drink ชามะขาม


ระบบความบันเทิงส่วนตัวของเครื่องลำนี้เป็นรุ่นที่ค่อนข้างใหม่ ภาพคมชัด หน้าจอระบบสัมผัส ตอบสนองดี


รีโมตมีจอแอลซีดีเล็กๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีไปทำไม


อีกด้านของรีโมตเป็นปุ่มคีย์บอร์ด และปุ่มควบคุมแอปเกม


ด้านข้างบริเวณที่รองแขนมีช่องเสียบหูฟัง และช่องชาร์จ USB สองช่อง


เนื่องจากไฟลท์นี้บินออกตอน 10 โมงกว่า เราจึงได้อาหารกลางวันมารับประทานกัน จานหลักคือมักกะโรนีผัดไก่ ของหวานคือมูสชาเขียวถั่วแดง รสชาติมักกะโรนีอร่อยกำลังดี แต่ไก่ดูแห้งไปหน่อย ไม่ค่อยน่ากิน ของหวานดูจะอร่อยที่สุดสำหรับมื้อนี้


เอนกายพักผ่อนได้ประมาณ 10-15 นาทีเครื่องก็ลดระดับลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ


ปกติแล้วผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางไปไหนไกลๆ กับการบินไทย เพราะถ้าเป็นไฟลท์ระหว่างประเทศ ผมจะนั่งสายการบินอื่น ดังนั้นไมล์ที่ผมสะสมผ่าน ROP (จากทุกๆ สายการบินในกลุ่ม Star Alliance ที่ผมเดินทางเป็นประจำ เช่นสิงคโปร์แอร์ไลน์ รวมกับคะแนนบัตรเครดิต) ก็จะเอามาใช้แลกไมล์สำหรับบินเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งในหนึ่งปีได้อยู่หลายไฟลท์เลยครับ


ข้อดีขอการแลกไมล์สำหรับตั๋วภายในประเทศ ก็คือค่าธรรมเนียมที่ไม่เปลี่ยนแปลง จะบินช่วงไหนของปีก็ราคาเดิม เหมาะมากกับการใช้ไมล์แลกช่วง High Season เช่นช่วงนี้ ไปจนถึงเดือนมีนา หรือเมษา เพราะค่าธรรมเนียมที่เราจ่าย ประมาณเที่ยวละไม่กี่ร้อยบาท ยังไงก็ถูกกว่าราคาตั๋วปกติ


บัตรเครดิตที่ผมใช้อยู่ตอนนี้คือ KTC Royal Orchid Plus ทุกๆ 500 คะแนน สามารถแลกไมล์ ROP ได้ 250 ไมล์ บวกกับไมล์ที่สะสมอยู่เป็นประจำจากการบิน แป๊บเดียวก็คะแนนถึงพอสำหรับแลกตั๋วรางวัลแล้ว


วิธีการแลก เข้าไปที่เว็บไซต์ www.thaiairways.com/rop

จากนั้นล็อกอินชื่อบัญชีของตนเอง แล้วไปที่ช่องทางการแลกคะแนน เลือกแลกคะแนนสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เลือกเส้นทาง และวันที่ต้องการเดินทาง จากนั้นก็เลือกว่าต้องการบินไฟลท์ไหน ในชั้นอะไร


จำนวนไมล์ที่ใช้แลกตั๋วรางวัลเที่ยวบินในประเทศ ไป-กลับ:

9,500 ไมล์ = ชั้นประหยัด (เฉพาะไทยสไมล์ โปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มี.ค. 2019)

15,000 ไมล์ = ชั้นประหยัด (การบินไทย และ ไทยสไมล์)

17,500 ไมล์ = ชั้นประหยัดพรีเมียม (ไทยสไมล์)

20,000 ไมล์ = ชั้นธุรกิจ (การบินไทย)


#แลกไมล#สะสมไมล#ชั้นธุรกิจ #การบินไทย #รีวิว #รีวิวสายการบิน #บินกับไมค์ #เที่ยวกับไมค์ #ไมค์พาเที่ยว #DaMike #DaMikeCo #ThaiAirways #BusinessClass #Review #AirlineReview #StarAlliance

0 ความคิดเห็น
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • Instagram
bottom of page