top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนadmin

รีวิวเดินทางจากสุราษฯกลับกรุงเทพฯ กับไทยสไมล์ (Thai Smile)


หลังจากพักผ่อนที่สมุยมาหลายวัน ผมก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยวิธีการต่อเรือข้ามฟากมายังสุราษฯ แล้วใช้บริการสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบิน WE 252 / TG 2252


สนามบินสุราษฯ เป็นสนามบินของกระทรวงคมนาคม ซึ่งตัวอาคารก็จะคล้ายๆ กับสนามบินในต่างจังหวัดหลายๆ แห่ง ปัจจุบันสนามบินสุราษฯ ฝั่งผู้โดยสารขาออกจากให้เข้าเพียงประตูเดียว เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้วัดอุณหภูมิ และสแกนคิวอาร์โค้ด (หรือลงทะเบียน) ไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการภายในตัวอาคารและก่อนขึ้นเครื่อง


เคาท์เตอร์เช็คอินของไทยสไมล์ ให้บริการโดยพนักงานภาคพื้นของการบินไทยที่สนามบินสุราษฯ


เช็คอิน ได้บอร์ดดิ้งพาสมาเรียบร้อย


ร้านขายของที่ระลึกในสนามบินสุราษฯ ส่วนใหญ่ยังปิดให้บริการ


แต่ร้านอาหาร ร้านกาแฟเกือบทั้งหมดกลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว ร้านแบล็คแคนยอนชั้นล่างก็เปิดแล้ว มานั่งกินข้าวดื่มกาแฟรอขึ้นเครื่องได้ ราคาของอาหารและเครื่องดื่มที่สนามบินสุราษฯ ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับหลายๆ สนามบิน


สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทาง ทั้งจากกัวลาลัมเปอร์​ และจีนที่มาลงสุราษฯ เป็นประจำยังคงงดให้บริการ


เที่ยวบินที่ให้บริการช่วงบ่ายวันนี้ สายการบินภายในประเทศกลับมาให้บริการครบหมดแล้ว แต่บางไฟลท์ยังยกเลิกอยู่


สนามบินสุราษฯ ไม่ใหญ่มาก ดังนั้นใกล้ๆ เวลาจะประกาศบอร์ดดิ้งค่อยเข้าไปในพื้นที่เกต ระหว่างที่รอเข้าพื้นที่ตรวจสัมภาระตรงพื้นจะมีเส้นขีดไว้ให้เว้นระยะห่าง ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่ปฏิบัติตามได้ดี


บริเวณด้านในพื้นที่เกตยังมีร้านกาแฟ ร้านขายขนม และของที่ระลึกเปิดให้บริการเพิ่มเติม


มีร้านแบล็คแคนยอนแบบ to-go อยู่ด้านในพื้นที่เกตด้วย รวมกันที่สนามบินสุราษฯ มีแบล็คแคนยอน 2 ร้าน และกาแฟอเมซอนอีก 1 ร้าน และร้านกาแฟท้องถิ่นอีก 2-3 ร้าน ถือว่าเป็นสนามบินที่ร้านกาแฟให้เลือกเยอะ และหลากหลายกว่าหลายๆ สนามบินภายในประเทศที่ผมเคยใช้บริการ


เก้าอี้สำหรับนักรอขึ้นเครื่องทำเครื่องหมายห้ามนั่งเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างกัน


เครื่องแอร์บัส A320-200 ของไทยสไมล์เทียบงวงช้างรอให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องกันแล้ว ถ่ายรูปดูพนักงานภาคพื้นโหลดกระเป๋าขึ้นในช่องคาร์โกของเครื่อง


เที่ยวบิน WE 252 พร้อมให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้ว เที่ยวบินนี้ผู้โดยสารน่าจะประมาณ 65-70% จากจำนวนที่นั่งทั้งลำจากที่ประเมินด้วยสายตา การเดินทางถือว่ากลับมาครึกครึ้นมากขึ้น ก่อนขึ้นเครื่องพนักงานจะตรวจบอร์ดดิ้งพาส และบัตรประชาชน (หรือพาสปอร์ต) ต้องดึงหน้ากากให้พนักงานตรวจด้วยนะ ก่อนเข้างวงช้างจะมีพนักงานอีกคนวัดอุณหภูมิร่างกายด้วย


ผมเลือกที่นั่งแถวติดทางออกฉุกเฉินเช่นเดิม


แถวทางออกฉุกเฉินจะมีพื้นที่กว้างกว่าแถวอื่นๆ แต่เด็กกับผู้สูงอายุห้ามนั่ง รวมทั้งคนที่มีโรคประจำตัวหรือฟังและปฏิบัติตามคำสั่งลูกเรือไม่ออกก็ไม่สามารถนั่งแถวนี้ได้เช่นกัน


ความกว้างระหว่างเขา และเบาด้านหน้าของแถว exit row กว้างประมาณนี้ (ผมสูง 185 cm)


ทีวีระบบความบันเทิงห้อยลงมาแบบนี้ เป็นสายการบินภายในประเทศสายการบินเดียวในไทยที่ยังมีระบบความบันเทิงให้บริการ


มาสำรวจห้องน้ำบ้าง ตรงประตูห้องน้ำมีป้ายนี้ติดไว้บอกมาตรการความสะอาดและฆ่าเชื้อในห้องน้ำของไทยสไมล์ เวลาผู้โดยสารใช้ห้องน้ำเสร็จลูกเรือจะเข้าไปทำความสะอาดทุกรอบ สุดยอดมากๆ


บริเวณอ่างล้างมือยังมีเจลแอลกอฮอลให้บริการเพิ่มเติม (ตอนขึ้นเครื่องจะมีเจลแอลกอฮอลหลอดเล็กแจกให้ฟรี 1 หลอด) แต่ถ้าใครไม่อยากใช้เจลแอลกอฮอลล้างมือก็ยังสามารถกดสบู่ล้างมือได้ตามปกติ


เที่ยวบินใช้เวลาบินประมาณ 50 กว่านาที (เวลาตามตารางบิน 1 ชั่วโมง 15 นาที) ก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เทียบงวงช้างที่เกต A1 นานๆ ทีลงจากเครื่องภายในประเทศแล้วมาจอดที่งวงช้าง จึงขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกสักหน่อย เครื่องลำนี้นี้จะเดินทางไปเชียงใหม่ต่อ


รับกระเป๋าที่สายพานหมายเลข 4 พนักงานกราวด์ของการบินไทยนำรถเข็นกระเป๋ามาจอดตามจุดที่กำหนดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม


การเดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศตอนนี้เรียกว่าน่าจะกลับมาสู่โหมดเกือบปกติกันหมดทุกเส้นทางแล้ว การสวมหน้ากากบนเครื่อง และการเว้นระยะห่างตามจุดให้บริการต่างๆ ถือเป็น New Normal ที่หลายๆ คน โดยเฉพาะผู้โดยสารเครื่องบินในตอนนี้น่าจะคุ้นชินกันแล้ว ยังไงก็อย่าลืมออกไปเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและในชุมชนต่างๆ ด้วยกันนะครับ


#ThaiSmiles #Review #FlightReview #ThaiAirways #StarAlliance #รีวิว #รีวิวสายการบิน #ไทยสไมล#การบินไทย #DaMike #DaMikeCo

0 ความคิดเห็น
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • Instagram
bottom of page